• All
  • ท่องเที่ยว
  • Category 2

Archives

gravatar

3 วัน 2 คืน ที่… พะเยา

 

 

       ได้มีโอกาศไปเที่ยวที่พะเยาอีกครั้งครับ หลังจากปีที่แล้วก็ไปมาเหมือนกัน ไปช่วงเดือนธันวานี้แหละ และไปด้วยเหตุผลเหมือน ๆ กันด้วย แต่คราวนี้ไม่ค่อยได้ถ่ายภาพวิวกว้านเท่าใหร่ครับ เพราะเหตุผลหลายอย่าง ทั้งรีบไปถ่ายงาน และอื่น ๆ (มัวเล่นเกม) อีกด้วย และอีกอย่างคือสภาพอากาศมืด ๆ เป็นส่วนใหญ่ครับ

 

 

       คลิปนี้เป็นช่วงเดินเล่นตอนกลางคืน รอบๆกว๊านครับ พอกินหมูทะเสร็จ ก็เดินถนนคนเดินที่พะเยา แล้วก็เดินรอบ ๆ กว๊านชมวิวทิวทัศน์ตอนกลางคืนของเมืองพะเยา แต่ขอบอกเลยครับว่า เงียบมาก ทั้ง ๆ ที่อยู่ในตัวเมืองแท้ ๆ … แต่เงียบจริง ๆ สงบไปอีกแบบ ก็ชอบเหมือนกันนะ ว่าแต่ สาวพะเยา หาย ไป ใหน หมด … เหอะ ๆ

 

ทริปนี้ถือว่า โอเค นะครับ สนุกกันแบบหมูคณะ ดึก ๆ มาเล่นเกมจนถึงตี 1 ตี 2  -.-“ (มาทำงานหรือมาเล่นเกม) เหอะ ๆ แต่ไปคราวนี้ไม่ค่อยได้รูปสวย ๆ ติดไม้ติดมือมาสักเท่าใหร่เลย ไว้โอกาศหน้าละกันครับ ^^

gravatar

เทศการณ์ลอยโคมไฟ @ ม.แม่โจ้ (เชียงใหม่)

 

         ถึงเทศการณ์ลอยกระทงสักทีครับ เทศการณ์ลอยกระทงที่ จ.เชียงใหม่ ถือว่าเป็นจังหวัดหนึ่งที่น่าเที่ยวมากครับ มีงานหลายจุดให้เราได้ไปชม ทั้งงานแสดงโคมไฟ จุดประทีป วัฒนธรรมล้านนาต่าง ๆ และมีงานหนึ่งครับที่ผมพลาดไม่ได้ก็คือ เทศการณ์งานปล่อยโคมที่หลังมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โคมเยอะมาก ตื่นตาตื่นใจ ถือว่าไปแล้วไม่ผิดหวังเลยครับ ถึงคนจะเยอะไปนิดหน่อยก็เถอะ

 

        ใครที่อยากจะไปชมให้เห็นกับตา เขาจะจัดช่วงประมาณเดือน พฤจิกา นิแหละครับ โดยเดินทางมุ่งหน้าไปทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยงานหรือสถานที่จัดจะอยู่ตรงหลังของมหาลัย (แนะนำใครเอารถยนต์ไปกรุณาเพือเวลาสัก 2 ชั่วโมงนะครับ เพราะรถติดมาก ๆ) ถ้าใครอยากเป็นเจ้าภาพจะมีค่าธรรมเนียม 500 บาท ครับ จะได้ประทีป 1 อัน กับโคมอีก 1 โคม โดยเขาจะมีจุดให้เรานั้งเป็นจุด ๆ ตามที่เขากำหนด (ต้องไปเช้า ๆ หน่อยนะครับเพราะคนจองเยอะพอสมควร) ส่วนโคมไฟแนะนำอย่าชื้อหน้างานก่อนทางเข้านะครับ เพราะเขาไม่ให้เราเอาโคมเข้าไปอย่างแน่นอน เพราะโคมที่ปล่อยในงานต้องได้มาตรฐานที่เขากำหนดไว้เท่านั้น ไว้ค่อยไปชื้อในงานเลยจะดีกว่า รีวิวเที่ยวคราวนี้ไม่มีอะไรเขียนมากครับเพราะ รีบไปรีบกลับ ไงไว้รีวิวหน้านะครับ

เข้าไปชมรูปภาพได้ที่ >> http://nedesign.multiply.com/photos/album/8/8

gravatar

One Day Trip … วันเดียวก็เที่ยวได้ [ทะเลหมอกอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง + ปาย]

 

       หลายเดือนมาแล้วครับที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวใหนไกล ๆ บ้างเลย คราวนี้ได้มีโอกาศเข้าร่วมทริปกับอาจารย์ที่มหาลัยเขาบ้าง  เห็นเขาชวน ๆ กันก็เลยสมัครเข้าร่วมแก้งค์ กับเขาเลยครับ ทริปนี้ (จุดหมายปลายทางจริง ๆ แล้วแค่ห้วยน้ำดังเฉย ๆ ครับ แต่พวกผมเห็นเวลาเหลือกันเลยแวะเข้าปาย) เอาละ นัดกันตี 3 ที่หน้าอำเภอแม่ริมกัน ว่าแต่ … อำเภอแม่ริม มัน อยู่ ตรง ใหน วะ … ?  เอาวะ งมทางไปก่อนละกัน จนขับไปจนคิดว่าน่าจะอยู่แถว ๆ นี้ แวะเข้าไปถามคนในปั้มน้ำมันดู อ้าว… กุเลยมาหรือเนี้ย จำเป็นได้ขับรถกลับไปอีกครับ ดีนะ…เลยมาไม่มาก พอถึงก็นั้นรอสักแปปครับ ในที่สุดก็มาครบกันได้ (3 คน - -“ ) ถึงเวลาแล้ววว ออกเดินทางงง

 

รูปภาพแผนที่

 

        ระยะเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังประมาณ 100 กม. ได้ครับใช้เวลาการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ ลืมบอกไปครับว่าการเดินทางครั้งนี้ผมใช้ รถมอไซด์ไปกัน ออกเดินทาง ตี 3 นิด ๆ ถึงประมาณ 5 โมงกว่าๆ แนะนำสำหรับคนใส่แว่นเหมือนผมถ้าขับมอไซด์กันกรุณามีคนนำทางแล้วพยายามให้เขาเปิดไฟเลี้ยวตามโค้งต่าง ๆ ด้วยนะครับ เพราะบางช่วงมันจะมีหมอกหนา คอยรอจับหน้าเลนส์แว่นคุณอยู่ แล้วมันจะพยายามกันให้คุณมองไม่เห็นทาง หรือหลีกเลี่ยงโดยการใส่คอนแทคเลนส์สะ เพราะโค้งเยอะมาก และโค้งหักศอกด้วยล่ะ (เพื่อนผมวัดถนนคาหน้าคาตาผมเลย ระวังหน่อยนะครับ) และเวลาโค้งอย่าคิดว่าตัวเองแน่ (กุเก่ง) เลยทีเดียวล่ะ ได้วัดถนนกันแน่ โชคดีหน่อยก็แค่ปลิวไม่ไกล แต่ถ้ารถแรง ๆ ขับเร็ว ๆ หน่อยมีหวังตกเหวได้นะครับ เส้นทางนี้สำหรับคนท้องถิ่นหรือเดินทางตอนกลางวันถือว่าไม่โหด เพราะถ้าไปทางแม่ฮ่องสอน โหดกว่านี้อีก

 

IMG_6760

 

 

        ในที่สุดก็ถึงสะทีครับ ผมก็เพิ่งเห็นทะเลหมอกกับตาเป็นครั้งแรกเลยนะเนี้ย ถ้าอยากเห็นทะเลหมอกสวย ๆ ต้องมาตอนปลายฝนต้นหนาวครับ สักเดือน ตุลา ได้ แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศแบบเย็น ก็สักเดือนธันวา แต่ผมว่าตุลาก็เย็นละนะ เย็นพอสบาย ๆ สัก 18-20 องศาได้ ส่วนใครอยากนอนก็มีสถานที่พักให้ครับ ต้องจองผ่าน website เท่านั้นที่ http://www.dnp.go.th/ ที่เดียวครับ ส่วนที่กางเต้นก็มีให้เหมือนกัน

        ถ้าถามว่าผมชอบตรงจุดใหนของห้วยน้ำดังหร่อ ผมว่าผมชอบตรงจุดชมวิวดอยกิ่วลม (ที่เห็นในรูป) เป็นสถานที่เหมาะแก่การถ่ายรูปครับ อีกอย่างเราจะได้ยินเสียงลมที่กระทบกับต้นไม้ตลอดเวลา ตามชื่อดอยอ่ะครับ เป็นเสียงแบบหวิว ๆ แต่ไม่หนวกหูนะ (ไม่ใช่เสียงเหมือนพายุที่พัดบ้านเราหลอกนะครับ) อธิบายไม่ถูก ต้องลองไปดู ไม่ผิดหวังแน่  ถ่ายไปถ่ายมาสักพัก ก็หิววข้าวว ก็เตรียมข้าวไปด้วยพอเปิดออกมาก็เป็นก้อนเลย มันถ้าจะเย็นจนแข็งตัวอ่ะ แต่กินได้อยู่ เสร็จแล้วก็ถ่ายรูปต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลากลับเชียงใหม่กัน แต่ผมว่าเวลายังเหลืออยู่นะ ตอนนั้นยังแต่ 8 –9 โมงเช้าอยู่เลย เลยแวะเข้าปาย ขับไปต่ออีก 30 กิโลสักนิดหน่อย

 

 

 

IMG_6826

         ในที่สุดก็ถึงปายแล้ว ถึงเวลาประมาณ 9 โมงกว่า ๆ ได้ ก็แวะสะพานปายสะนิดหน่อย เห็นอะไรหน้าสนใจก็แวะเข้าไปหน่อย แต่มาปายครั้งนี้ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปไรมาก แวะกินเค้ก O-cake ก็อร่อยดีครับ ไม่แพงมาก แล้วก็ขึ้นไปทางบ้าน จีนยูนาน แวะขึ้นไปน้ำตก (จำชื่อไม่ได้) เล่นอยู่นั้นสักประมาณ 1 ชั่วโมงได้ครับ พอได้เวลาสักเที่ยงก็กลับกัน พอถึงเชียงใหม่ก็แวะเข้าบ้านเพื่อน ก็ถึงประมาณ บ่าย 3 กว่า ๆ ได้ ก็หลับสัก 2 ชั่วโมง พอ 6 โมงก็ขับกลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่กัน

 

ค่าใช่จ่าย

  • ค่าน้ำมัน ประมาณ 120 – 180 บาทครับ
  • ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าอาหาร , ของฝาก แล้วแต่บุคคลครับ

 

ระยะเดินทางทั้งหมดสำหรับทริปนี้ประมาณ  310.2  กิโลเมตร (จดจากหน้าปัดรถตั้งแต่ออกจากหอ) น้ำมันเติมถัง กับอีก 1.5 ลิตร (ที่ห่อใส่กระเป๋าไปด้วย พอดีเปะ…) ใครไม่ได้เตรียมไปก็แวะเติมที่ปายตอนกลับก็ได้ครับ  ส่วนคลิปด้านล่างนี้ขอขอบคุณ อ.พินิจ มากครับที่ตัดต่อ ถ่ายมาเป็นที่ระทึก … เป็นความทรงจำดี ๆ อย่างหนึ่งที่ได้มา สงสัยผมคงต้องหากล้องถูก ๆ ที่อัดวีดีโอได้สักตัวแล้วล่ะ

 

รูปทั้งหมดสามารถชมเพิ่มเติมได้ที่ http://www.flickr.com/photos/nedesign หรือ ตรงลิงค์ด้านบนได้เลยครับ

 

 

ปล. หากใครอยากร่วมทริปด้วยสามารถติดตามข่าวสารทาง Facebook ได้ครับ แต่กด like ตรงข้าง ๆ หรือเข้ามาดูในบอร์คนี้บ่อย ๆ ยินดีครับ เที่ยวกันเยอะ ๆ สนุกดี

gravatar

Travel @ Pai , Pai in Summer

        ปาย เป็นเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งอยู่ในจังหวัด แม่ฮ่องสอน ขึ้นชื่อในด้านการท่องเที่ยวมานานแล้วครับ ผมก็อยากไปนานแล้วเหมือนกัน เห็นเขาว่าสวย บรรยากาศดี ใหน ๆ ก็ปิดเทอมหน้าร้อนสักทีเพื่อนเลยชวนไปปาย - -“ (ช่วงหน้าร้อนเนี้ยนะ ! ) แต่ก็สนุกดีนะครับ เดินทางไม่ยุ่งยากขึ้นรถเที่ยวเดียวถึงเลย เริ่มต้นการเดินทาง ก็ขึ้นรถเมย์ เชียงใหม่ - ปาย หรือ เชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน ก็ได้ครับ (ตอนที่ผมไป ผมขึ้นรถเมย์ธรรมดาไปนะครับ) ค่ารถอยู่ที่ประมาณ 73 บาท   รถจะออกทุก ๆ 1 ชั่วโมง เที่ยวแรกเริ่ม 7 โมงเช้า (ผมไปรอบ 7 โมงเช้านิแหละ) ถึงที่นู้นก็ประมาณ 11 โมงครึ่ง ก็ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงกว่า ๆ ส่วนใครอยากไปด้วยรถตู้ ก็มีบริการณ์ให้ครับ น่าจะ 140 กว่าบาทมั้ง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะเพราะไม่ได้ขึ้นแฮะ ส่วนอีกแบบจะเป็นมินิบัส ครับราคาพอ ๆ กับรถตู้ มั้ง

 

IMG_3479

 

        พอถึงครึ่งทาง รถเมย์จะจอดพักตรงจุดบริการณ์สัก 15 นาที สภาพถนนถึงว่าโค้งก็เยอะพอสมควร จนยายไก่เพื่อนผมคนหนึ่งเกิดเมารถ *-* … โชคดีที่เตรียมถุงมาด้วย ที่จริงถุงที่เตรียมมาด้วยเอาไว้ห่อกล้องกันเปียกน้ำ แต่ดันได้ใช้ตอนนี้สะได้ ^^  ถ้าใครที่เมารถบ่อย ๆ ผมแนะนำพยายามมองไกล ๆ ครับ มองวิวตามข้างทางหายใจลึก ๆ ก็ช่วยได้ระดับหนึ่งน่ะ

 

IMG_2975_2 IMG_3085 IMG_3065

 

        ถึงปาย สะที … ระยะทางจากเชียงใหม่ - ปาย ประมาณ 143 กิโลเมตร 762 โค้ง … เหอะๆ เพิ่งรู้นะเนี้ยว่าตั้ง 762 โค้ง … พอถึงปาย ก็เดินมั่ว ๆ ภาษาคนต่างถึ่น สิ่งแรกที่อยากได้ตอนนั้นคือ “แผนที่” ก่อนอื่นก็ต้องหาอะไรใส่ท้องสะก่อนก็เลยแวะกินข้าวแถวหน้าอำเภอ เมื่อท้องอิ่มก็เดินทางต่อ …  เลยตัดสินใจเช่ารถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับตระเวนหาที่พักกัน ค่าเช่ารถก็ตกเริ่มต้นที่ 100 บาท/วัน

 

IMG_3442-tile

 

        สุดท้ายก็ได้ที่พักที่ “บ้านใหม่ปลามัน” ครับ เป็นบ้านพัก และ Gallery Studio ด้วย ^^ (ผมยังยืมขาตั้งกล้องเขาเลย) เจ้าของใจดีมากครับ เช่าทั้งหลัง นอนกี่คนก็ได้ตกคืนละ 250 บาท แต่พวกผมดันต่อราคาเขาเหลือ 200 แบบว่าโคตรถูกเลยว่าได้ ผมว่าทั้งหลังนอนได้ประมาณ 7 – 10 คนสบายๆเลยครับ คุ้มนะ แต่ช่วง high season คืนละ 700 (ถือว่าถูกอยู่ดี)

 

        จากนั้นเมื่อได้ที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็ตระเวนเที่ยวกันต่อ ที่จริงถ้าถามว่า ปาย กว้างมั้ย ผมว่าไม่กว้างนะ เป็นเมืองเล็ก ๆ สิ่งอำนวยความสดวกพร้อม หากใครอยากหาที่เงียบ ๆ พักพ่อน ปายอาจจะเป็นคำตอบ หนึ่งในนั้นก็ได้

 

IMG_3211 

        สถานที่หนึ่ง ที่อยากแนะนำ ร่านเค้กโกโอ “Cake go “O” ”  เค้กอร่อยใช้ได้เลยทีเดียวครับ ราคาก็ไม่แพงมาก ( ผมยังกินไม่หมดเลย ) เพราะกินเยอะ ๆ มันรู้สึกเลี่ยน ๆ อย่างไงไม่รู้แฮะ หรือว่าผมไม่ค่อยหิว - -“

 

IMG_3158-horz

 

        วันที่ 2 ที่ใช้ชีวิตในปาย  ช่วงเช้าไปเที่ยวที่หมู่บ้านจีนยูนาน สร้างบ้านโดยใช้ดิน จะเป็นอีกบรรยากาศหนึ่ง ถ้าใครไปเที่ยวปายต้องลองไปแวะดูครับ หากไม่ทราบว่าต้องไปทางใหน ลองถามแม่ค้าหรือคนแถวนั้นดูครับ

 

IMG_3249

 

        พอถึงตอนเที่ยงก็กลับไปส่งรถ จากนั้นก็เช่ารถจักรยาน ตกคันละ 50 บาท/วัน จากนั้นก็ปั่นแถว ๆ ในตัวเมืองแวะตามร้านต่าง ๆ ชื้อของฝาก ตกเย็นก็แวะถนนคนเดิน  … แต่ อย่างที่ว่าครับ ช่วง Low Season ก็ไม่ค่อยมีใครขายของสักเท่าใหร่ อีกซ้ำฝนยักตกมานิดหน่อยด้วย

 

page_2

 

หลัง ๆ มาไม่ค่อยมีไรจะเที่ยวแล้วครับ ไปเที่ยวครั้งนี้ ส่วนมากจะถ่ายคนสะส่วนใหญ่ ตอนแรก ๆ หวังว่าน่าจะเจอทุ่งนาสีเขียว ๆ แต่ผิดหวังครับ ไว้คราวหน้าถ้ามีโอกาศก็จะไปใหม่ ทริปหน้าไปให้ก็จะแจ้งให้ทราบอีกทีนะครับ ส่วนใครอยากชมรูปเพิ่มเติมก็เข้าไปดูที่ http://nedesign.multiple.com

 

IMG_3453

 

        วันที่ 3 ที่ปาย ก็เริ่มรู้สึกว่า … อ ยา ก ก ลั บ บ้า น … เหอะ ๆ เพราะเริ่มไม่ค่อยมีไรให้เที่ยวละ รู้สึกว่าทุกคนจะซึม ๆ อาจจะมีความรู้สึกคล้าย ๆ กับผม ^^  ตอนกลับก็รู้สึกว่าเร็วกว่าตอนมานะ ส่วนยายไก่ก็เมารถอีกตามเคย ส่วนผมก็ตาตื่นตลอดทาง ส่วนยายมิน ก็เหมือนคนปกติทั่วไป … เหอะ ๆ คงเอียนกับคำว่าปาย อีกนาน

 

 

สรุป

        เที่ยวครั้งนี้ถือว่า โอเค ครับ พัก 3 วัน 2 คืน หมดเงินไปประมาณ เกือบ ๆ 1400  ถือว่าตามเป้า ถ้าถามว่าประทับใจกับการเที่ยวครั้งนี้มั้ย ก็คือว่าระดับปลานกลางครับ อาจจะเป็นเพราะเราไปเที่ยวไม่ตรงกับ ฤดูด้วย เพราะบางร้านเขาก็ไม่เปิด ถ้ามีโอกาศ คราวหน้าก็จะไปแวะเวียนใหม่ อาจจะเป็นหน้าฝน หรือหน้าหนาว แล้วแต่โอกาศอีกที แต่คนที่นั้นว่า ปาย หน้าฝนสวยนะครับ ได้ยินเขาพูดอย่างงี้ก็อยากไปแล้วแฮะ อาจจะขับรถมอไซด์ไปเองหรือนั้งรถไปค่อยว่ากันอีกที

 

        สุดท้ายก็กล่าวขอขอบคุณเรื่องสถานที่พัก และหลายๆเรื่องครับ ขอบอกว่าเจ้าของที่พักใจดีมากครับ ให้ยืมขาตั้งกล้องด้วย อีกทั้งที่ถ่ายภาพยังเป็น studio ถ่ายภาพสะด้วย แสง ฉาก พร้อม กับราคาคืนละ 200 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากครับ คราวหน้าถ้าไปก็จะไปใช้บริการณ์อีก คนที่ ปาย เขาก็ใจดีเกือบทุกคน

 

ค่าใช้จ่าย

  • ค่ารถ ไป – กับ  146 บาท
  • ค่าเช่ารถจักรยานยนต์  140 บาท
  • ค่าน้ำมัน  40  บาท
  • ค่าเช่าจักรยาน  50 บาท
  • ค่าที่พัก 150  บาท

**ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นรวม ๆ 526  บาท ส่วนที่เหลือก็ค่า กิน ค่าของฝาก จุก ๆ จิก ๆ ครับ

 

เดินทางเมื่อวันที่ 16 – 18 พฤษภาคม พ.ศ.2553 ผู้ร่วมเดินทาง หนึ่ง,มิน,ไก่

gravatar

ชมพระอาทิตย์ตกที่ดอยปุย @ Dolpui

 IMG_1772 

 

       ทริปนี้ไม่มีไรมากครับ ท่องเที่ยวไกล้ ๆ ไม่ไกลมาก พอดีเวลาว่างๆก็เลยหาที่เที่ยวที่ไกล้ๆดู ไปกลับสดวก เมื่อหน้าหนาวคราวที่แล้วผมเคยมาอยู่ครั้งหนึ่ง ประทับใจมากครับ เพราะวิวตอนพระอาทิตย์ตกสวยมาก ท้องฟ้าจะไล่โทนสี เหมาะแก่การถ่ายภาพมากครับเส้นทางการเดินทาง ก็คือเดินทางขึ้นไปทางดอยสุเทพครับ ตรงไปเรื่อยๆไปทางพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เลยขึ้นไปอีกครับ เมื่อเจอทางแยกให้เลี้ยวขวา ไปทางขุนช้างเคี่ยนครับ ตรงไปอีกนิดหน่อยก็สังเกตุด้านซ้ายมือ จะมีจุดชมวิว ลองเข้าไปแวะชมดูครับไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มาก

 

        ตอนแรกผมก็ลังเลนะ ว่าจะไปหรือไม่ไป เพราะช่วงนี้ฝนตกลมแรงบ่อยมาก เกือบจะทุกๆเย็นด้วยช้ำ พอดีผมมีเรียนช่วงบ่ายโมงถึงบ่ายสาม ลองสังเกตุดูท้องฟ้าก็มืดๆนิดหน่อย เลยลองปรึกษากับเพื่อนดูว่า วันนี้ฝนจะตกป่าว เพื่อนว่า ไม่น่าจะตกนะ ผมก็เลยชวนเพื่อนๆไปเที่ยวดอยปุย ตรงจุดชมวิวกัน ก็มีเพื่อนคนหนึ่งสนใจอยากไปด้วยครับก็เลยไปด้วยกัน

 

IMG_1702

 

        เลยไปเติมน้ำมันรถ เตรียมกล้อง และของที่จำเป็นให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง พอเสร็จไปรับเพื่อนก็เกือบๆ จะบ่าย 4 โมงครึ่งครับ คราวนี้ก็ขับรถ ดรีม 125 คู่ใจไป ขับช้าๆครับไม่รีบร้อนมาก เพราะอย่างไงไปถึงแล้วก็ต้องรอพระอาทิตย์ตกดินอีก ชิวๆ ~~

 

        พอก้าวถึงจุดชมวิว ก็กดชัตเตอร์ได้มารูปหนึ่งครับ บรรยากาศตอนนั้นก็เย็นสบายดีนะ ผมยังพูดกับเพื่อนว่า “อยากให้อากาศข้างล่างเย็นเหมือนแบบนี้จัง” มันเย็นสบายๆครับ ไม่เย็นมาก พอหลับสบายๆ ~ ~ ถ้าให้เดาก็ประมาณ 22-25 องศาได้ครับ กำลังดีเลยทีเดียว

 

IMG_1783  IMG_1784

 

        คราวนี้ก็สนุกกันใหญ่ บรรยากาศก็ดี วิวก็สวย ทุกอย่างลงตัวไปหมดครับ เลยใช้เพื่อนโพสต์ท่าต่างๆอย่างที่เห็นในรูปนั้นแหละครับ บรรยากาศสวยๆอย่างงี้ ไม่เก็บภาพไม่ได้แล้ว แต่ก็มีคนมาเที่ยวบ้างนะครับไม่เยอะมาก สักพักก็เห็นเพื่อนผมอีกคนมา ก็ไม่ค่อยรู้จักมากเท่าใหร่ แต่เคยเห็นหน้าบ่อยๆครับเพราะเรียนแผนกเดียวกันแต่ต่างห้องเท่านั้น

 

IMG_1780

 

        แอบถ่ายสะเลย … เพื่อนผมที่ว่านั้นแหละครับ เรียนแพนกเดียวกัน แต่อยู่ต่างห้องคุ้นๆหน้า … มาแบบไม่ได้นัดหมาย เขามาจุดประสงค์เดียวกับผมนิแหละ ก็คือถ่ายภาพ …

 

        คู่นี้เห็นแล้วอิจฉาจัง … มาเป็นคู่ๆ ดูพระอาทิตย์ตกดิน ….. เมื่อใหร่เราจะมีเหมือนเขาบ้างเนี้ย .. 

 

IMG_1786

 

        พอดูนาฬิกาแล้วก็ได้เวลากลับแล้วสิ ฟ้าก็มืด แต่เสียดาย … หมอกควันเยอะไปหน่อยวันนี้ ถ้าหมอกไม่เยอะ ตอนพระอาทิตย์ตกจะสวยกว่านี้อีกครับ ท้องฟ้าจะไล่โทนสีคลามเต็มท้องฟ้าเลย อย่างไงวันนี้ก็ได้ภาพสวยๆมาหลายภาพละ กลับกันเถอะ ….  พอมาถึงด้านล่างก็มืดพอดีครับ ไปส่งเพื่อนเอารถใน ม. แล้วก็แยกย้ายกันกลับหอใคร หอมัน เที่ยวคราวนี้ถือว่าสนุกใช้ได้ครับ อยู่หอเฉยๆก็หน้าเบื่อ มาสูดอากาศบริสุทธิ์ อากาศเย็นๆสบายๆ ท้องฟ้าสวยๆ ล้อมด้วยภูเขาใหญ่น้อยต่างๆ … มีความสุขครับ

gravatar

Traval @ KhunTan

 IMG_1413

 

       ว่างๆไม่รู้ไปใหนครับ อยู่หอเฉยๆก็น่าเบื่อ ใหน ๆ วันหยุดทั้งทีก็เลยจัดทริปเที่ยวเองครับ แบบว่า จัดเอง เที่ยวเอง ไปเอง  โดยตั้งหัวข้อว่า อยู่ไกล้ แถวๆ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ขอประหยัดหน่อย ยิ่งดีครับ เลยคิดออกว่า ไปขุนตานน่าจะดี เพราะอยากไปนานละ แต่ไม่ค่อยมีโอกาศไปอีกอย่างไปทางรถไฟก็ได้ สดวกดี และตอนนี้รัฐบาลเขาให้ขึ้นรถไฟฟรีด้วย เรื่องค่าใช้จ่ายค่าเดินทางตัดออกได้เลยครับ ที่เหลือก็ค่าข้าว น้ำ ขนม อันนี้ไม่มีปัญหาครับ ก็เลยจัดข้าวจัดของ ไปพรุ่งนี้เช้ากันเลย ก็คือจะเดินทางโดยรถไฟ เชียงใหม่ - ขุนตาน เอา

       เช้ารุ่งขึ้น ตื่น 7:30 น. ครับ เพราะเช็ครอบรถไฟในเน็ตแล้วออก 9:20 น. อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ 8 โมงนิดๆ ไปถึงสถานีประมาณ 8 โมงครึ่งครับ ก็เดินเข้าไปถามนายสถานีก่อนเช็คให้แน่ใจว่ารถออกกี่โมง ก็อย่างที่เช็คมาครับ 9:20 แน่นอน เลยจองตั๋วตอนนั้นเลย อ่อสายรถที่จะขึ้นเป็นสาย เชียงใหม่ – นครสวรรค์ ครับ

 

เวลาที่เหลืออีกครึ่งชั่วโมงกว่าๆ รอรถออกผมก็เดินไปทั่วๆ สถานีเพื่อมีไรหน้าสนใจถ่ายรูปเก็บไว้ครับ ก็ได้มาหลายรูปอยู่เหมือนกัน

 

IMG_1335 IMG_1343

IMG_1348 IMG_1354 IMG_1333

        พอถึงเวลารถออกก็รีบขึ้นรถทันที โดยผมเลือกนั้งตอนท้ายสุด เพราะไม่ค่อยมีคนดี สบายๆ แต่ก็แอบตื่นเต้นนิดหน่อยครับ เพราะเกิดมา ได้นั่งรถไฟเป็นหนที่ 2 เอง ตอนขึ้นครั้งแรก ตอนเด็กๆนานมาละ จำไม่ค่อยได้ มันก็เพลินดีน่ะ ได้บรรยากาศ นั้งไปเรื่อยๆ ผ่านสถานีต่างๆ ต่างสถานีก็คล้ายกันเลยครับ เมื่อมีรถไฟมา นายสถานีแต่ละนาย จะออกมาต้อนรับเรา (^^) มาโบกธง เขียว ธง แดง คล้ายๆกันทุกสถานีเลย จนมาถึงสถานีที่เราจะลง ก็คือ สถานีขุนตาน ถึงเวลาประมาณ10:42 ครับ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงกับ 20 นาทีนิดๆ

 

 

เมื่อลงจากรถไฟแล้ว ผมก็มุ่งหน้าเข้าไปถามนายสถานีตามเคย ว่า “รถรอบกลับจะมากี่โมงครับ” เขาก็บอกว่า “รถรอบนี้สายหน่อยนะ ปกติ จะมา 13:35 แต่วันนี้น่าจะมาบ่าย 2 นู้นแหละ” ผมก็ไม่ได้เอะใจไรหลอกนะครับ ถามเพื่อจะได้รู้เวลา จากนั้นก็เดินถ่ายรูปรอบๆ

 

IMG_1502

IMG_1427 IMG_1428

IMG_1521 IMG_1508 IMG_1446 IMG_1450

 

        จากนั้นก็เดินเข้าไปในอุโมงค์ครับ อากาศเย็นนะ เย็นแบบอย่างไงไม่รู้อ่ะ พอดีไปคนเดียวด้วย น่ากลัวอย่างไงไม่รู้แฮะ ผมก็เดินเข้าไปเรื่อยๆนะครับเกือบถึงครึ่งอุโมงค์ละ เกิดเปลียนใจ หันหลังกลับ รู้สึกกลัวอย่างไงม่รู้สิ แต่ผมเห็นกำแพงในอุโมงค์ พวกมือบอลมันชอบเขียนไรไม่รู้ครับ เต็มไปหมด

 

IMG_1431

 

IMG_1430

        เมื่อเดินออกจาอุโมงค์เรียบร้อยแล้วก็รู้สึกหิวแล้วสิ จากนั้นก็มองหาของกิน พอกินเสร็จแล้วก็นั่งคุยกับป้าที่ขายอาหารสักนิดหน่อย ว่าที่นีมีที่เที่ยวใหนบ้าง ป้าเขาก็แนะนำว่า ลองเดินไปอุทยานข้างบนดูสิ ผมก็ถามไปว่า “'ไกลใหมครับป้า” ป้าเขาตอบ “โลกว่าๆ น่ะ” โลกว่าๆที่จริงก็ไม่ไกลมากนะ แต่มันเป็นทางชัน ขึ้นเขานิดิ อีกอย่างตอนนั้นก็ เที่ยงตรงด้วย ร้อนสุดๆเลยว่าได้ อ่ะเอาก็เอา ใหนๆก็มาละ ต้องไปดูสักที จากนั้นก็ซื้อน้ำมาขวดหนึ่งติดตัวไปด้วย รู้ว่าจะต้องหิวน้ำแน่

 

IMG_1461

IMG_1463 IMG_1467

 

เส้นทางก็ที่อย่างที่เห็นครับ ถึงจุดๆนี้ละ ก็คงต้องเดินลูกเดียว ซดน้ำตลอดทาง บางทีก็เจอวิวสวยๆ มุมสวยๆถ่ายรูปบ้างอย่างเช่นรูปนี้ครับ

 

IMG_1476

 

        มีม้าหินอ่อนให้นั้งพักไกล้ๆด้วย เลยหยุดพักจุดนี้นานหน่อย เห็นมุมดีๆเลยอดไม่ได้ต้องเอากล้องมาถ่าย ภาพนี้ ถ่ายที่ 1/1000 F 21 ISO 100 ถ้าเราตั้ง F เยอะๆแล้วย้อนพระอาทิตย์ เราจะเห็นแสงพระอาทิตย์เป็น 6 แฉกครับ ท้องฟ้าก็จะไล่โทนสี ดูสวยไปอีกแบบ เมื่อหายเหนือยแล้วก็เดินทางต่อครับ จนถึง ….. เฮ้ยย (คราวหน้าใครจะมาหน้าร้อนไม่แนะนำนะครับ ถ้าจะไปก็แนะนำหน้าหนาวครับ)

 

IMG_1495

 

        นักศึกษาค่าธรรมเนียม 10 บาทนะครับ (ตอนแรกผมก็ไม่ได้บอกว่าเป้นนักศึกษานะ เขาคงดูแล้วเห็นสง่าราศี 555+) ก้าวแรกที่เข้าไปก็ต้องอย่างแรกเลยคือ หาห้องน้ำ เหอะๆ… .เพื่อจะหาน้ำดับร้อนสะหน่อย แบบว่า ร้อนโคตรๆเลย จากนั้นก็เดินดูทั่วๆครับว่ามีไรบ้าง ก็เจออยุ่สิ่งหนึ่งครับ เป็นป้ายเล็กๆเขียนว่า “ลำปาง 2 ก้าวก็ถึง” เอ๋…. งง ไรว้ะ ….ผมก็ดูตามลูกสอนครับ เลยถึงบางอ้อว่า จุดนั้นเป็นเส้นแบ่งจังหวัดระหว่าง ลำปาง - ลำพูนครับ มาดูภาพกันดีกว่า

 

IMG_1492

 

        ก็คือถนนนิแหละครับ ปกติถนนจะมี 2 เลน ใช่ป่าวครับ แต่นี่ก็คือใช้เส้นแบ่งกลางเลน เป็นเส้นแบ่งกั้นจังหวัดน่ะครับ เอ.. ความคิดดีแฮะ เพิ่งมารู้ตัวว่า เออ..เราเดินข้ามมาลำปางแล้วหร่อเนี้ย ตอนนั้นเลยนึกเล่นๆว่า เอาขาขั้งหนึ่งไว้ฝั่งลำปาง ขาอีกข้างไว้ฝั่งลำพูน คนครึ่ง แล้วหัวเราะเบาๆ ดันมีเด็กแถวนั้นมองหน้า ถ้าจะว่าผม “ไอ่พี่คนนี้บ้าแหง์ๆ” เหอะๆ จากนั้นก็ไม่มีไรมากครับ เพราะผมไปไม่ถูกฤดู - -“  พูดถึงวิวก็สวยนะ แต่อย่างว่าสภาพอากาศไม่อำนวยก็งั้นๆแหละ จากนั้นก็หาน้ำไว้ตุน ตอนขาลงอีก 1 ขวด ดูนาฬิกา ก็บ่ายโมงละ เดินไปก็บ่ายโมงครึ่งพอดี จากนั้นก็เดินลงมาทางเดิมครับ

 

        พอเดินมาถึงด้านล่าง ก็ตรงตามเวลาที่คิดไว้เลย ก็เข้าไปถามนายสถานี ตามเคยว่ารถมากี่โมง ได้คำตอบใหม่ครับว่า “รถมาบ่าย 2:20 ครับน้อง” โอ้ว…. จากในกำหนดน่าจะมา 13:35 โห…มาสายตั้ง 1 ชั่วโมงเลยหร่อ ก็ทำไงได้ครับ รถไฟ อย่าหวังไรมาก… เวลาที่เหลืออีก 1 ชั่วโมงก็ไล่เดินถ่ายรูปตามเคย

 

IMG_1415

 

มีการบอกความสูงด้วย …เขาบอกว่า จุดๆนี้สูงเหนือน้ำทะเล 758 ครับ แต่หน่วยมันเป็นไรเนี้ยก็ไม่บอกใครพอรู้ช่วยบอกทีนะครับ จะเป็นเมตร หรือว่าไรกันแน่เนี้ย

 

IMG_1525 

        แปปเดี่ยวก็จะถึงเวลารถไฟมาแล้วครับ ก็รีบกลับไปที่สถานี แล้วจองตั๋ว เหมือนเดิม คราวนี้เริ่มง่วงนิดหน่อยแฮะ คนก็เยอะกว่าเมื่อเช้าอีก ร้อนนนน …. ก็ออกมาจากสถานีเวลาประมาณ14:32 ได้ครับมาถึงเชียงใหม่ก็ประมาณ 15:40 ได้ พอมาถึงเห็นรถไฟจอดหลายคันเลยครับ เยอะกว่าตอนเมื่อเช้าอีก อย่างงี้ต้องถ่ายอีกรอบ แต่ก่อนอื่น ดูไอ่รถไฟอันที่เรานั้งมาก่อน นายสถานีเขาจะเอาหัวรถจักรมาต่อท้าย เพื่อจะถอยหลังกลับ ผมก็ยืนดูอย่างตั้งใจ ไอ่คนที่ขับหัวรถจักร ดันบีบแตร … แม่งโคตรดัง ตกใจหมด แล้วยังหันหามองผมแล้วหัวเรอะด้วยนะ ….เหอะๆ แต่มันขับหัวรถจักรต่อท้ายขบวนได้โหดมากเลยครับ ขับชนแม่งเลย ….เหอะๆ ตกใจหมด คนขับก็กวน ตรีน ด้วย .. (เออ ลืมถ่ายรูปคนขับมาประจานแฮะ )

 

IMG_1533

 

 

ค่าใช้จ่ายการเที่ยวครั้งนี้

  • ค่าเดินทาง 0 บาท
  • ค่าอาหาร เช้า + เที่ยง  55 บาท
  • น้ำ 2 ขวด 20 บาท
  • ค่าเข้าอุทยาน 10 บาท

รวม 85 บาทครับ

 

สรุป

        เที่ยวครั้งนี้สนุกพอใช้ได้ครับ อุปสรรค์ก็คือความร้อน … คนไม่เยอะนะ พอดีละ แต่ให้แนะนำถ้าใครอยากไป ไปหน้าหนาวครับ ไม่ก็หน้าฝน อาจจะมีกลุ่มหมอก ให้เห็น เมฆสวยๆบ้าง เอาเต้นไปกางก็ได้นะครับ มีจุดกางเต้นให้ ห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ เขามีให้พร้อมหมดครับ สอาด ใช้ได้ น้ำไฟพร้อมทุกอย่าง ว่างๆใครพอรู้ที่เที่ยวแบบนี้บ้างก็แนะนำผมได้นะครับ ผมจะลองไปดู เที่ยวแบบนี้ผมชอบอยู่ละ จะชวนผมไปด้วยยิ่งดีครับ

 

( เดินทางวันที่ 25 เมษายน 2553 )