Traval @ KhunTan
ว่างๆไม่รู้ไปใหนครับ อยู่หอเฉยๆก็น่าเบื่อ ใหน ๆ วันหยุดทั้งทีก็เลยจัดทริปเที่ยวเองครับ แบบว่า จัดเอง เที่ยวเอง ไปเอง โดยตั้งหัวข้อว่า อยู่ไกล้ แถวๆ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ขอประหยัดหน่อย ยิ่งดีครับ เลยคิดออกว่า ไปขุนตานน่าจะดี เพราะอยากไปนานละ แต่ไม่ค่อยมีโอกาศไปอีกอย่างไปทางรถไฟก็ได้ สดวกดี และตอนนี้รัฐบาลเขาให้ขึ้นรถไฟฟรีด้วย เรื่องค่าใช้จ่ายค่าเดินทางตัดออกได้เลยครับ ที่เหลือก็ค่าข้าว น้ำ ขนม อันนี้ไม่มีปัญหาครับ ก็เลยจัดข้าวจัดของ ไปพรุ่งนี้เช้ากันเลย ก็คือจะเดินทางโดยรถไฟ เชียงใหม่ - ขุนตาน เอา
เช้ารุ่งขึ้น ตื่น 7:30 น. ครับ เพราะเช็ครอบรถไฟในเน็ตแล้วออก 9:20 น. อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ 8 โมงนิดๆ ไปถึงสถานีประมาณ 8 โมงครึ่งครับ ก็เดินเข้าไปถามนายสถานีก่อนเช็คให้แน่ใจว่ารถออกกี่โมง ก็อย่างที่เช็คมาครับ 9:20 แน่นอน เลยจองตั๋วตอนนั้นเลย อ่อสายรถที่จะขึ้นเป็นสาย เชียงใหม่ – นครสวรรค์ ครับ
เวลาที่เหลืออีกครึ่งชั่วโมงกว่าๆ รอรถออกผมก็เดินไปทั่วๆ สถานีเพื่อมีไรหน้าสนใจถ่ายรูปเก็บไว้ครับ ก็ได้มาหลายรูปอยู่เหมือนกัน
พอถึงเวลารถออกก็รีบขึ้นรถทันที โดยผมเลือกนั้งตอนท้ายสุด เพราะไม่ค่อยมีคนดี สบายๆ แต่ก็แอบตื่นเต้นนิดหน่อยครับ เพราะเกิดมา ได้นั่งรถไฟเป็นหนที่ 2 เอง ตอนขึ้นครั้งแรก ตอนเด็กๆนานมาละ จำไม่ค่อยได้ มันก็เพลินดีน่ะ ได้บรรยากาศ นั้งไปเรื่อยๆ ผ่านสถานีต่างๆ ต่างสถานีก็คล้ายกันเลยครับ เมื่อมีรถไฟมา นายสถานีแต่ละนาย จะออกมาต้อนรับเรา (^^) มาโบกธง เขียว ธง แดง คล้ายๆกันทุกสถานีเลย จนมาถึงสถานีที่เราจะลง ก็คือ สถานีขุนตาน ถึงเวลาประมาณ10:42 ครับ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงกับ 20 นาทีนิดๆ
เมื่อลงจากรถไฟแล้ว ผมก็มุ่งหน้าเข้าไปถามนายสถานีตามเคย ว่า “รถรอบกลับจะมากี่โมงครับ” เขาก็บอกว่า “รถรอบนี้สายหน่อยนะ ปกติ จะมา 13:35 แต่วันนี้น่าจะมาบ่าย 2 นู้นแหละ” ผมก็ไม่ได้เอะใจไรหลอกนะครับ ถามเพื่อจะได้รู้เวลา จากนั้นก็เดินถ่ายรูปรอบๆ
จากนั้นก็เดินเข้าไปในอุโมงค์ครับ อากาศเย็นนะ เย็นแบบอย่างไงไม่รู้อ่ะ พอดีไปคนเดียวด้วย น่ากลัวอย่างไงไม่รู้แฮะ ผมก็เดินเข้าไปเรื่อยๆนะครับเกือบถึงครึ่งอุโมงค์ละ เกิดเปลียนใจ หันหลังกลับ รู้สึกกลัวอย่างไงม่รู้สิ แต่ผมเห็นกำแพงในอุโมงค์ พวกมือบอลมันชอบเขียนไรไม่รู้ครับ เต็มไปหมด
เมื่อเดินออกจาอุโมงค์เรียบร้อยแล้วก็รู้สึกหิวแล้วสิ จากนั้นก็มองหาของกิน พอกินเสร็จแล้วก็นั่งคุยกับป้าที่ขายอาหารสักนิดหน่อย ว่าที่นีมีที่เที่ยวใหนบ้าง ป้าเขาก็แนะนำว่า ลองเดินไปอุทยานข้างบนดูสิ ผมก็ถามไปว่า “'ไกลใหมครับป้า” ป้าเขาตอบ “โลกว่าๆ น่ะ” โลกว่าๆที่จริงก็ไม่ไกลมากนะ แต่มันเป็นทางชัน ขึ้นเขานิดิ อีกอย่างตอนนั้นก็ เที่ยงตรงด้วย ร้อนสุดๆเลยว่าได้ อ่ะเอาก็เอา ใหนๆก็มาละ ต้องไปดูสักที จากนั้นก็ซื้อน้ำมาขวดหนึ่งติดตัวไปด้วย รู้ว่าจะต้องหิวน้ำแน่
เส้นทางก็ที่อย่างที่เห็นครับ ถึงจุดๆนี้ละ ก็คงต้องเดินลูกเดียว ซดน้ำตลอดทาง บางทีก็เจอวิวสวยๆ มุมสวยๆถ่ายรูปบ้างอย่างเช่นรูปนี้ครับ
มีม้าหินอ่อนให้นั้งพักไกล้ๆด้วย เลยหยุดพักจุดนี้นานหน่อย เห็นมุมดีๆเลยอดไม่ได้ต้องเอากล้องมาถ่าย ภาพนี้ ถ่ายที่ 1/1000 F 21 ISO 100 ถ้าเราตั้ง F เยอะๆแล้วย้อนพระอาทิตย์ เราจะเห็นแสงพระอาทิตย์เป็น 6 แฉกครับ ท้องฟ้าก็จะไล่โทนสี ดูสวยไปอีกแบบ เมื่อหายเหนือยแล้วก็เดินทางต่อครับ จนถึง ….. เฮ้ยย (คราวหน้าใครจะมาหน้าร้อนไม่แนะนำนะครับ ถ้าจะไปก็แนะนำหน้าหนาวครับ)
นักศึกษาค่าธรรมเนียม 10 บาทนะครับ (ตอนแรกผมก็ไม่ได้บอกว่าเป้นนักศึกษานะ เขาคงดูแล้วเห็นสง่าราศี 555+) ก้าวแรกที่เข้าไปก็ต้องอย่างแรกเลยคือ หาห้องน้ำ เหอะๆ… .เพื่อจะหาน้ำดับร้อนสะหน่อย แบบว่า ร้อนโคตรๆเลย จากนั้นก็เดินดูทั่วๆครับว่ามีไรบ้าง ก็เจออยุ่สิ่งหนึ่งครับ เป็นป้ายเล็กๆเขียนว่า “ลำปาง 2 ก้าวก็ถึง” เอ๋…. งง ไรว้ะ ….ผมก็ดูตามลูกสอนครับ เลยถึงบางอ้อว่า จุดนั้นเป็นเส้นแบ่งจังหวัดระหว่าง ลำปาง - ลำพูนครับ มาดูภาพกันดีกว่า
ก็คือถนนนิแหละครับ ปกติถนนจะมี 2 เลน ใช่ป่าวครับ แต่นี่ก็คือใช้เส้นแบ่งกลางเลน เป็นเส้นแบ่งกั้นจังหวัดน่ะครับ เอ.. ความคิดดีแฮะ เพิ่งมารู้ตัวว่า เออ..เราเดินข้ามมาลำปางแล้วหร่อเนี้ย ตอนนั้นเลยนึกเล่นๆว่า เอาขาขั้งหนึ่งไว้ฝั่งลำปาง ขาอีกข้างไว้ฝั่งลำพูน คนครึ่ง แล้วหัวเราะเบาๆ ดันมีเด็กแถวนั้นมองหน้า ถ้าจะว่าผม “ไอ่พี่คนนี้บ้าแหง์ๆ” เหอะๆ จากนั้นก็ไม่มีไรมากครับ เพราะผมไปไม่ถูกฤดู - -“ พูดถึงวิวก็สวยนะ แต่อย่างว่าสภาพอากาศไม่อำนวยก็งั้นๆแหละ จากนั้นก็หาน้ำไว้ตุน ตอนขาลงอีก 1 ขวด ดูนาฬิกา ก็บ่ายโมงละ เดินไปก็บ่ายโมงครึ่งพอดี จากนั้นก็เดินลงมาทางเดิมครับ
พอเดินมาถึงด้านล่าง ก็ตรงตามเวลาที่คิดไว้เลย ก็เข้าไปถามนายสถานี ตามเคยว่ารถมากี่โมง ได้คำตอบใหม่ครับว่า “รถมาบ่าย 2:20 ครับน้อง” โอ้ว…. จากในกำหนดน่าจะมา 13:35 โห…มาสายตั้ง 1 ชั่วโมงเลยหร่อ ก็ทำไงได้ครับ รถไฟ อย่าหวังไรมาก… เวลาที่เหลืออีก 1 ชั่วโมงก็ไล่เดินถ่ายรูปตามเคย
มีการบอกความสูงด้วย …เขาบอกว่า จุดๆนี้สูงเหนือน้ำทะเล 758 ครับ แต่หน่วยมันเป็นไรเนี้ยก็ไม่บอกใครพอรู้ช่วยบอกทีนะครับ จะเป็นเมตร หรือว่าไรกันแน่เนี้ย
แปปเดี่ยวก็จะถึงเวลารถไฟมาแล้วครับ ก็รีบกลับไปที่สถานี แล้วจองตั๋ว เหมือนเดิม คราวนี้เริ่มง่วงนิดหน่อยแฮะ คนก็เยอะกว่าเมื่อเช้าอีก ร้อนนนน …. ก็ออกมาจากสถานีเวลาประมาณ14:32 ได้ครับมาถึงเชียงใหม่ก็ประมาณ 15:40 ได้ พอมาถึงเห็นรถไฟจอดหลายคันเลยครับ เยอะกว่าตอนเมื่อเช้าอีก อย่างงี้ต้องถ่ายอีกรอบ แต่ก่อนอื่น ดูไอ่รถไฟอันที่เรานั้งมาก่อน นายสถานีเขาจะเอาหัวรถจักรมาต่อท้าย เพื่อจะถอยหลังกลับ ผมก็ยืนดูอย่างตั้งใจ ไอ่คนที่ขับหัวรถจักร ดันบีบแตร … แม่งโคตรดัง ตกใจหมด แล้วยังหันหามองผมแล้วหัวเรอะด้วยนะ ….เหอะๆ แต่มันขับหัวรถจักรต่อท้ายขบวนได้โหดมากเลยครับ ขับชนแม่งเลย ….เหอะๆ ตกใจหมด คนขับก็กวน ตรีน ด้วย .. (เออ ลืมถ่ายรูปคนขับมาประจานแฮะ )
ค่าใช้จ่ายการเที่ยวครั้งนี้
- ค่าเดินทาง 0 บาท
- ค่าอาหาร เช้า + เที่ยง 55 บาท
- น้ำ 2 ขวด 20 บาท
- ค่าเข้าอุทยาน 10 บาท
รวม 85 บาทครับ
สรุป
เที่ยวครั้งนี้สนุกพอใช้ได้ครับ อุปสรรค์ก็คือความร้อน … คนไม่เยอะนะ พอดีละ แต่ให้แนะนำถ้าใครอยากไป ไปหน้าหนาวครับ ไม่ก็หน้าฝน อาจจะมีกลุ่มหมอก ให้เห็น เมฆสวยๆบ้าง เอาเต้นไปกางก็ได้นะครับ มีจุดกางเต้นให้ ห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ เขามีให้พร้อมหมดครับ สอาด ใช้ได้ น้ำไฟพร้อมทุกอย่าง ว่างๆใครพอรู้ที่เที่ยวแบบนี้บ้างก็แนะนำผมได้นะครับ ผมจะลองไปดู เที่ยวแบบนี้ผมชอบอยู่ละ จะชวนผมไปด้วยยิ่งดีครับ
( เดินทางวันที่ 25 เมษายน 2553 )